Self
- Test, Activity
ตรวจสอบทบทวน (Self
- Test)
1.
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโดยสรุปมีกี่ขั้นตอน
และสาระสำคัญในแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร
สรุปแล้วขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษามี 5 ขั้นตอน
ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
ขั้นที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในด้านต่าง
ๆ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
-
ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพและความต้องการของชุมชน
-
การวิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียน
-
การวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลาง
ขั้นที่ 2 การร่างหลักสูตร ซึ่งจะประกอบไปด้วย
-
กำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตร
- กำหนดเนื้อหาสาระ
- จัดการเรียนการสอน
กิจกรรมและสื่อต่าง ๆ
-
กำหนดวิธีและประเมินผลผู้เรียน
ขั้นที่ 3 การตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตร ซึ่งจะประกอบไปด้วย
เมื่อร่างหลักสูตรเสร็จ
ต้องมีการตรวจสอบก่อนนำไปใช้ สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ
ความสอดคล้องขององค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่
- จุดประสงค์
- เนื้อหาสาระ
-
การจัดการเรียนการสอน
-
กิจกรรมและสื่อการเรียนรู้
-
วิธีวัดและประเมินผลผู้เรียน
ขั้นที่ 4 การนำหลักสูตรไปใช้ ซึ่งจะประกอบไปด้วย
คือการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน
ต้องกำหนดวิธีการจัดการเรียนการสอน กำหนดรายละเอียดกิจกรรมในแต่ละคาบ
เตรียมวัสดุอุปกรณ์ ประสานงาน เพื่อให้การสอนเป็นไปตามวัตถุประสงค์มากที่สุด
ขั้นที่ 5 การประเมินผลหลักสูตร
กิจกรรม (Activity)
1.
สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เรื่อง การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
1. ความหมายของการพัฒนาหลักสูตร
มีนักการศึกษาให้ความหมายของคำว่า “
การพัฒนาหลักสูตร ” ไว้ดังนี้
สงัด อุทรานันท์ ได้กล่าวถึงความหมายของการพัฒนาหลักสูตรว่า
“ การพัฒนา ” ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า
“Development”
มีความหมายอยู่ 2 ลักษณะ คือ
- การทำให้ดีขึ้นหรือทำให้สมบูรณ์ขึ้น
- การทำให้เกิดขึ้น
ด้วยเหตุนี้การพัฒนาหลักสูตรจึงมีความหมายใน
2 ลักษณะ คือ การทำหลักสูตรที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น หรือสมบูรณ์ขึ้น
กับการสร้างหลักสูตรขึ้นมาใหม่ โดยไม่มีหลักสูตรเดิมเป็นพื้นฐานเลย
ทาบา (Taba) ได้กล่าวไว้ว่า “ การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหลักสูตรอันเดิมให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
ทั้งในด้านการวางจุดมุ่งหมาย การจัดเนื้อหาวิชา การเรียนการสอน การวัดผลประเมินผล
และอื่นๆ เพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายอันใหม่ที่วางไว้
การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบหรือเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
ตั้งแต่จุดมุ่งหมายและวิธีการ
และการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรนี้จะมีผลกระทบกระเทือนทางด้านความคิดและความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ส่วนการปรับปรุงหลักสูตร หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรเพียงบางส่วนโดยไม่เปลี่ยนแปลงแนวคิดพื้นฐาน
หรือรูปแบบของหลักสูตร ”
กู๊ด (Good) ได้ให้ความเห็นว่า “ การพัฒนาหลักสูตรเกิดได้ 2 ลักษณะ คือ
การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงหลักสูตร การปรับปรุงหลักสูตรเป็นวิธีการพัฒนาหลักสูตรอย่างหนึ่งเพื่อให้เหมาะสมกับโรงเรียนหรือระบบโรงเรียน
จุดมุ่งหมายของการสอน วัสดุอุปกรณ์ วิธีสอน รวมทั้งการประเมินผล
ส่วนคำว่าเปลี่ยนแปลงหลักสูตร หมายถึงการแก้ไขหลักสูตรให้แตกต่างไปจากเดิม
เป็นการสร้างโอกาสทางการเรียนขึ้นใหม่ ”
เซเลอร์ และอเล็กซานเดอร์ (Saylor
and Alexander) ให้ความหมายว่า “ การพัฒนาหลักสูตร หมายถึง
การจัดทำหลักสูตรเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น
หรือเป็นการจัดทำหลักสูตรใหม่โดยไม่มีหลักสูตรเดิมอยู่ก่อน การพัฒนาหลักสูตร
อาจหมายรวมถึงการสร้างเอกสารอื่นๆ สำหรับนักเรียนด้วย
จากความหมายของการพัฒนาหลักสูตรที่นักการศึกษาได้กล่าวไว้ข้างต้น
ทำให้สามารถอธิบาย สรุปความหมายของการพัฒนาหลักสูตรได้ว่า การพัฒนาหลักสูตร (Curriculum
Development) หมายถึง การจัดทำหลักสูตร การปรับปรุง
การเปลี่ยนแปลงหลักสูตรให้ดีขึ้น เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของบุคคล
และสภาพสังคม
2. สาเหตุที่ทำให้มีการพัฒนาหลักสูตร
การพัฒนาหลักสูตร
จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณาถึงข้อมูลพื้นฐานในด้านต่างๆ
เพื่อให้หลักสูตรที่สร้างขึ้นมานั้น สมบูรณ์ สามารถสนองความต้องการของบุคคล
และสังคม พื้นฐานด้านต่าง ๆ ที่นักพัฒนาหลักสูตรต้องนำมาพิจารณานั้นมีหลายประการ
ซึ่งมีนักการศึกษาได้ให้ความคิดเห็นว่าพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรด้านต่าง ๆ
ที่ควรนำมาพิจารณาในการพัฒนาหลักสูตร มี 5 ด้าน ดังนี้
1. พื้นฐานทางด้านปรัชญาการศึกษา
2.
พื้นฐานทางด้านจิตวิทยา
3.
พื้นฐานทางด้านสังคมและวัฒนธรรม
4.
พื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง
5.
พื้นฐานทางด้านวิทยาการและเทคโนโลยี
3. กระบวนการพัฒนาหลักสูตร
ทาบา (Taba) ได้กล่าวถึง กระบวนการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน
ตามความเชื่อที่ว่าผู้เรียนมีพื้นฐานแตกต่างกัน โดยกำหนดกระบวนการพัฒนาหลักสูตรไว้
7 ขั้นตอน ดังนี้
1. วินิจฉัยความต้องการ :
สำรวจสภาพปัญหา ความต้องการ และความจำเป็นต่าง ๆ ของสังคม และผู้เรียน
2. กำหนดจุดมุ่งหมาย :
หลังจากได้วินิจฉัยความต้องการของสังคมและผู้เรียนแล้วจะกำหนดจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้ชัดเจน
3. คัดเลือกเนื้อหาสาระ :
จุดมุ่งหมายที่กำหนด แล้วจะช่วยในการเลือกเนื้อหาสาระให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย
วัย ความสามารถของผู้เรียน โดยเนื้อหาต้องมีความเชื่อถือได้
และสำคัญต่อการเรียนรู้
4. จัดเนื้อหาสาระ :
เนื้อหาสาระที่เลือกได้ ยังต้องจัดโดยคำนึงถึงความต่อเนื่อง
และความยากง่ายของเนื้อหา วุฒิภาวะ ความสามารถ และความสนใจของผู้เรียน
5.
คัดเลือกประสบการณ์การเรียนรู้ :
ครูผู้สอนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องคัดเลือกประสบการณ์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับเนื้อหาวิชา
และจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
6. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ :
ประสบการณ์การเรียนรู้ควรจัดโดยคำนึงถึงเนื้อหาสาระและความต่อเนื่อง
7.
กำหนดสิ่งที่จะประเมินและวิธีการประเมินผล :
ตัดสินใจว่าจะต้องประเมินอะไรเพื่อตรวจสอบผลว่าบรรลุตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
และกำหนดด้วยว่าจะใช้วิธีประเมินผลอย่างไร ใช้เครื่องมืออะไร
สงัด อุทรานันท์
มีความเห็นว่าการพัฒนาหลักสูตรมีความครอบคลุมถึงการร่างหลักสูตรขึ้นมาใหม่
และการปรับปรุงหลักสูตรที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นด้วย
การใช้หลักสูตรและการประเมินหลักสูตรนั้น
เป็นกระบวนการอันหนึ่งของการพัฒนาหลักสูตร
โดยได้จัดลำดับขั้นตอนของการพัฒนาหลักสูตรไว้ดังนี้ คือ
1. การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
2.
การกำหนดจุดมุ่งหมาย
3.
การคัดเลือกและจัดเนื้อหาสาระ
4.
การกำหนดมาตรการวัดและการประเมินผล
5.
การนำหลักสูตรไปใช้
6.
การประเมินผลการใช้หลักสูตร
7.
การปรับปรุงแก้ไขหลักสูตร
4. กระบวนการวิเคราะห์หลักสูตร
กระบวนการพัฒนาหลักสูตรทั้ง
6 ขั้นดังกล่าว มีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้
4.1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน คือ
ข้อมูลทางด้านความต้องการ ความจำเป็นและปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ
การเมืองและการปกครอง ตลอดจนนโยบายทางการศึกษาของรัฐ ข้อมูลทางด้านจิตวิทยา
ปรัชญาการศึกษา ความต้องการของผู้เรียน ตลอดจนวิเคราะห์หลักสูตรเดิม
เพื่อพิจารณาข้อบกพร่องที่ควรปรับปรุงแก้ไข
4.2
การกำหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
คณะกรรมการดำเนินงานจะต้องร่วมกันพิจารณากำหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตรให้สอดคล้องกับข้อมูลพื้นฐาน
โดยจุดมุ่งหมายของหลักสูตรจะระบุคุณสมบัติของผู้ที่จบหลักสูตรนั้นๆ มุ่งพัฒนาผู้เรียนทั้ง
3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย โดยกำหนดทั้งจุดมุ่งหมายทั่วไป
และจุดมุ่งหมายเฉพาะ แต่ละรายวิชา ซึ่งจะเน้นการปฏิบัติมากขึ้น
โดยคำนึงถึงพัฒนาการทางร่างกาย และจิตใจ ตลอดจนปลูกฝังนิสัยที่ดีงาม
เพื่อให้เป็นพลเมืองดี
4.3 การกำหนดเนื้อหาและประสบการณ์การเรียนรู้
หลังจากได้กำหนดจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแล้ว ก็ถึงขั้นการเลือกสาระความรู้ต่างๆ
ที่จะนำไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
เพื่อความสมบูรณ์ให้ได้วิชาความรู้ที่ถูกต้องเหมาะสม กระบวนการขั้นนี้
จึงครอบคลุมถึงการคัดเลือกเนื้อหาวิชาแล้วพิจารณาจัดลำดับเนื้อหาเหล่านั้นว่า
เนื้อหาสาระใดควรเป็นพื้นฐานของเนื้อหาใดบ้าง ควรให้เรียนอะไรก่อนอะไรหลัง
แล้วแก้ไขเนื้อหาที่ถูกต้องสมบูรณ์ทั้งแง่สาระและการจัดลำดับที่เหมาะสม
ตามหลักจิตวิทยาการเรียนรู้
4.4 การนำหลักสูตรไปใช้ เป็นขั้นของการแปลงหลักสูตรไปสู่การสอน
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับครูผู้สอน หลักสูตรจะประสบผลสำเร็จ
มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับผู้บริหารโรงเรียน
และครูผู้สอนจะต้องศึกษาทำความเข้าใจ และมีความชำนาญในการใช้หลักสูตร
ซึ่งครอบคลุมถึงการเตรียมการสอน การจัดการเรียนการสอน การจัดสภาพแวดล้อมต่างๆ
ภายในโรงเรียนเพื่อเสริมหลักสูตร การนิเทศการศึกษา และการบริหารการบริการหลักสูตร
ฯลฯ นอกจากนี้ในขั้นนี้ยังครอบคลุมถึงการนำหลักสูตรไปทดลองใช้ก่อนนำไปเผยแพร่ด้วย
5. การประเมินผลหลักสูตร
การประเมินผลหลักสูตร
เป็นการประเมินสัมฤทธิ์ผลของหลักสูตรว่าเมื่อได้นำหลักสูตรไปใช้แล้วนั้น
ผู้ที่จบหลักสูตรนั้นๆ ไปแล้ว มีคุณสมบัติ
มีความรู้ความสามารถตามที่หลักสูตรกำหนดไว้หรือไม่ นอกจากนี้
การประเมินหลักสูตรจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปรับปรุงหลักสูตรให้มีคุณค่าสูงขึ้น
อันเป็นผลในการนำหลักสูตรไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
การประเมินหลักสูตรควรทำให้ครอบคลุมระบบหลักสูตรทั้งหมด
และควรจะประเมินให้ต่อเนื่องกัน ดังนั้นการประเมินหลักสูตร
จึงประกอบด้วยการประเมินสิ่งต่อไปนี้ คือ
5.1
การประเมินเอกสาร หลักสูตร เป็นการตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตร ว่ามีความเหมาะสมดี
และถูกต้องตามหลักการพัฒนาหลักสูตรเพียงใด
หากมีสิ่งใดบกพร่องก็จะได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขก่อนจะได้นำไปประกาศใช้ในโอกาสต่อไป
5.2
การประเมินการใช้หลักสูตร เป็นการตรวจสอบว่าหลักสูตร
สามารถนำไปใช้ได้ดีในสถานการณ์จริงเพียงใด
มีส่วนไหนที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้หลักสูตร
โดยมากหากพบข้อบกพร่องในระหว่างการใช้หลักสูตรก็มักได้รับการแก้ไขโดยทันที
เพื่อให้การใช้หลักสูตรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5.3
การประเมินสัมฤทธิผลของหลักสูตร
โดยทั่วไปจะดำเนินการหลังจากได้มีผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรไปแล้ว
การประเมินหลักสูตร
ในลักษณะนี้มักจะทำการติดตาความก้าวหน้าของผู้สำเร็จการศึกษาว่าสามารถประสบความสำเร็จในการทำงานเพียงใด
5.4
การประเมินระบบหลักสูตร เป็นการประเมินหลักสูตรในลักษณะที่มีความสมบูรณ์และสลับซับซ้อนมาก
กล่าวคือ การประเมินระบบหลักสูตรจะมีความเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบอื่น
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักสูตรด้วย เช่น ทรัพยากรที่ต้องใช้
ความสัมพันธ์ของระบบหลักสูตร กับระบบบริหาร โรงเรียน ระบบการจัดการเรียนการสอน
และระบบการวัดและประเมินผลการเรียนการสอน เป็นต้น
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑
คุณภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียนเป็นสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติได้เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ความรู้ ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะที่ระบุไว้ในมาตรฐาน
การเรียนรู้ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เรียนทุกคนดังนั้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการศึกษาทั้งระดับชาติ เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา
มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุคุณภาพตามที่มาตรฐานกำหนด
มาตรฐานการเรียนรู้การศึกษาขั้นพื้นฐานถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพการศึกษา
เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ
ตามอัธยาศัย และใช้สำหรับผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนวคิดดังกล่าวอยู่บนฐานความเชื่อที่ว่า
ผู้เรียนทุกคนสามารถพัฒนาอย่างมีคุณภาพ
เท่าเทียมกันได้
ตัวชี้วัด (Indicators)
สิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้
ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดมีลักษณะเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรมในการนำไปใช้
ในการกำหนดเนื้อหา การเรียนการสอน
และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดและประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน
โดยทั่วไปจะมีการกำหนดตัวชี้วัดเพื่อใช้ในการตรวจสอบผู้เรียนเป็นระยะ ๆ
ในการพัฒนาไปสู่มาตรฐานการเรียนรู้ การกำหนดตัวชี้วัดดังกล่าวนั้น
ในระบบการศึกษาบางแห่งอาจกำหนดไว้เป็นช่วงๆ ทุก ๓-๔
ปีแต่บางแห่งอาจกำหนดทุกระดับชั้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับบริบทการศึกษาแต่ละแห่ง
* หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พ . ศ . ๒๕๕๑ กำหนดตัวชี้วัดชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ ( ป . ๑ - ม . ๓ )
ตัวชี้วัดช่วงชั้นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ( ม . ๔ - ม . ๖ )
ตัวชี้วัดชั้นปี (Grade-level
Indicators/Grade-level expectations)
สิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ในแต่ละระดับชั้น
เป็นตัวชี้วัดพัฒนาการของผู้เรียนไปสู่มาตรฐานการเรียนรู้ มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนด
ตัวชี้วัดชั้นปีมีความชัดเจน มีความเฉพาะเจาะจง
และมีความเป็นรูปธรรมในการนำไปใช้ในการกำหนดเนื้อหา จัดการเรียนการสอน
และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดและประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ได้กำหนดตัวชี้วัดชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ (ป.๑-ม.๓)
เพื่อเป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ตัวชี้วัดช่วงชั้น (Interval
indicators)
หมายถึง
สิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้เมื่อเรียนจบแต่ละช่วงชั้นเป็นตัวชี้วัดพัฒนาการของผู้เรียนไปสู่มาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดช่วงชั้นจึงมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้
แต่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ได้กำหนดตัวชี้วัดช่วงชั้นเพื่อใช้สำหรับเป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการจัดทำหลักสูตร
กำหนดเนื้อหา การเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หลักสูตร (Curriculum)
ประมวลความรู้และประสบการณ์ที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ
ทักษะ และคุณลักษณะตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการเรียนรู้ หลักสูตรจึงเป็นเสมือนแผนที่กำหนดทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนไปสู่มาตรฐานการเรียนรู้ซึ่งเป็นเป้าหมาย
และมีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เพื่อให้ทราบความก้าวหน้าของผู้เรียนในการพัฒนาไปสู่มาตรฐานที่กำหนด
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Basic
education curriculum)
หลักสูตรที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนในระดับการศึกษาที่ต่ำกว่าอุดมศึกษา
โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนมีความสมบูรณ์ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา อีกทั้ง
มีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต และมีคุณภาพได้มาตรฐานสากล
เพื่อการแข่งขันในยุคปัจจุบัน
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานประกอบด้วยส่วนที่เป็นแกนกลางซึ่งกำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานส่วนที่เกี่ยวกับสภาพชุมชนและท้องถิ่น
ซึ่งพัฒนาโดยเขตพื้นที่การศึกษา
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและส่วนที่สถานศึกษาพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับความสนใจ
ความต้องการ และความถนัดของผู้เรียน
หลักสูตรแกนกลาง (Core
curriculum)
หลักสูตรแกนกลางเป็นหลักสูตรในส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดเพื่อใช้
ในการพัฒนาผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลักสูตรแกนกลางมีองค์ประกอบสำคัญ
ได้แก่ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดสาระการเรียนรู้แกนกลาง
โครงสร้างเวลาเรียนพื้นฐานซึ่งระบุการจัดเวลาเรียนของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
และเกณฑ์กลางในการจบหลักสูตรหลักสูตรแกนกลางเป็นกรอบทิศทางในการพัฒนากรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นและหลักสูตรสถานศึกษา
เป็นส่วนจำเป็นสำหรับพัฒนาเยาวชนไทยทุกคนให้เป็นพลเมืองดีของชาติ
และสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
สังคม ความเจริญทางวิทยาการในโลกยุคปัจจุบัน
กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น (Local
curriculum framework)
กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นเป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจัดทำโดยเขตพื้นที่การศึกษา
หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในระดับท้องถิ่นมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่
เป้าหมาย/จุดเน้นในการพัฒนาผู้เรียนในท้องถิ่น สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น และการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับท้องถิ่น
สถานศึกษาในเขตพื้นที่นั้นๆจะใช้ข้อมูลในกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่นเป็นแนวทางในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานการเรียนรู้ และเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน
มีความรักและหวงแหนมรดกทางสังคม มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหา
การแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพในชุมชน
หลักสูตรสถานศึกษา (School
curriculum)
แผนหรือแนวทางในการจัดประมวลความรู้และประสบการณ์ซึ่งจัดทำโดยคณะบุคคลในระดับสถานศึกษา
เพื่อใช้ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้
และส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักตนเอง มีชีวิตอยู่ในโรงเรียนชุมชน
และสังคมอย่างมีความสุข การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาพิจารณาจากหลักสูตรแกนกลาง
และกรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น
นอกจากนั้นสถานศึกษาแต่ละแห่งสามารถพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนที่สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทและจุดเน้นของสถานศึกษา
ตลอดจนความต้องการ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน
หลักสูตรอิงมาตรฐาน (Standards-based
curriculum)
หลักสูตรที่มีมาตรฐานเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ซึ่งเป็นคุณภาพที่คาดหวังให้เกิดในตัวผู้เรียนขึ้น
ดังนั้นการพัฒนาหลักสูตรตลอดแนวตั้งแต่ระดับชาติ ระดับท้องถิ่นระดับสถานศึกษา
ตลอดจนถึงระดับชั้นเรียนจะมีลักษณะเป็นหลักสูตรอิงมาตรฐาน
คือยึดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและเป็นกรอบทิศทางในการกำหนดโครงสร้าง
เนื้อหากิจกรรมการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
กล่าวโดยรวมก็คือการกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรอิงมาตรฐาน (Standards-based curriculum) การเรียนการสอนอิงมาตรฐาน
(Standards-based instruction) และการประเมินผลอิงมาตรฐาน (Standards-based assessment)
คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ (School
academic board)
คณะบุคคล ประกอบด้วย ผู้แทนฝ่ายต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น ผู้บริหารโรงเรียน ผู้ทรงคุณวุฒิ
ผู้แทนกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้แทนฝ่ายวิชาการ
ฝ่ายวัดและประเมินผลการเรียนรู้แนะแนว ฯลฯ ทำหน้าที่กำกับและส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาด้านวิชาการ
หลักสูตร
การเรียนการสอนของสถานศึกษาให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น