ตัวอย่างปัญหาการนำหลักสูตรไปใช้
สำหรับประเทศไทย
จากรายงานผลการศึกษาของ TIMSS พบว่า นักเรียนไทยในระดับประถมศึกษามีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนนานาชาติ ประกอบ
กับการศึกษารายงานผลการศึกษาเปรียบเทียบทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้ มีสิ่งที่
ประเทศไทยควรพิจารณาปรับปรุงการเรียนการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ดังต่อไปนี้
1. ด้านหลักสูตร
1.1 ประเทศที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มีการลดเนื้อหาในหลักสูตรลง
10-30% เพื่อให้มีเวลาพอที่จะให้นักเรียนเรียนด้วยการปฏิบัติและสร้างความรู้ด้วยตนเองมากขึ้น
ประเทศไทยจึงไม่ควรที่จะเพิ่มเนื้อหาของหลักสูตร ให้มากขึ้นในการปรับปรุงหลักสูตรใหม่นอกจากจะจัดให้มีเวลาเรียนในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์อย่างเพียงพอ
1.2 ควรจัดทำเอกสารหลักสูตรที่ชัดเจนและเสนอแนะแนวปฏิบัติแก่ครูอย่างเพียงพอเนื่องจากครูที่สอนในระดับประถมศึกษาไม่ได้รับการเตรียมมาสำหรับการสอนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
1.3 ควรมีการจัดเตรียมวัสดุและสื่อการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือเรียน คู่มือครู อุปกรณ์และเครื่องมือทดลองให้พร้อมสำหรับครูก่อนการนำหลักสูตรใหม่ไปใช้
1.4 ควรมีการเตรียมการก่อนการนำหลักสูตรใหม่ไปใช้ล่วงหน้าให้นานตามสมควรเช่นจัดให้หลักสูตรใหม่ถึงมือครูก่อนการประกาศใช้เป็นเวลา 1-2 ปี มีการอบรมครูอย่าง เข้มข้นและทั่วถึงก่อนเวลาประกาศใช้หลักสูตร จัดเตรียมหนังสือเรียนและวัสดุประกอบ การสอนล่วงหน้า และจัดให้มีระบบการให้คำปรึกษาหรือนิเทศการสอนที่มีประสิทธิภาพ
1.2 ควรจัดทำเอกสารหลักสูตรที่ชัดเจนและเสนอแนะแนวปฏิบัติแก่ครูอย่างเพียงพอเนื่องจากครูที่สอนในระดับประถมศึกษาไม่ได้รับการเตรียมมาสำหรับการสอนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
1.3 ควรมีการจัดเตรียมวัสดุและสื่อการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือเรียน คู่มือครู อุปกรณ์และเครื่องมือทดลองให้พร้อมสำหรับครูก่อนการนำหลักสูตรใหม่ไปใช้
1.4 ควรมีการเตรียมการก่อนการนำหลักสูตรใหม่ไปใช้ล่วงหน้าให้นานตามสมควรเช่นจัดให้หลักสูตรใหม่ถึงมือครูก่อนการประกาศใช้เป็นเวลา 1-2 ปี มีการอบรมครูอย่าง เข้มข้นและทั่วถึงก่อนเวลาประกาศใช้หลักสูตร จัดเตรียมหนังสือเรียนและวัสดุประกอบ การสอนล่วงหน้า และจัดให้มีระบบการให้คำปรึกษาหรือนิเทศการสอนที่มีประสิทธิภาพ
2. ด้านการฝึกหัดครูและการอบรมครูประจำการ
2.1 ครูประถมศึกษาในประเทศที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สูง
มีพื้นความรู้ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ดีพอสมควร เพราะส่วนใหญ่ เรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จนถึงชั้นปีสุดท้ายในโรงเรียนมัธยมศึกษา
ซึ่งแตกต่าง จากประเทศไทยที่ผู้เรียนครูประถมจำนวนมากไม่ได้จบการศึกษาในสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์
จากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
ผู้ที่เรียนครูวิชาเอกทางประถมศึกษาจำนวนมากจึงมีพื้น ความรู้ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไม่เพียงพอ
และหลักสูตรฝึกหัดครูประถมศึกษาก็ ไม่ได้จัดโปรแกรมการเรียนเพื่อเติมเต็มความรู้ด้านเนื้อหาของนักศึกษาให้เพียงพอ
ดังนั้นครูประถมศึกษาในประเทศไทยจึงมักจะมีปัญหาและขาดความมั่นใจในการสอน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
สิ่งที่ประเทศไทยควรจะกระทำคือควรกำหนดคุณสมบัติของ ผู้ที่จะเรียนเป็นครูสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษาต้องเรียนคณิตศาสตร์
และวิทยาศาสตร์จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และสถาบันฝึกหัดครูควรมีการฝึกอบรมผู้ที่จะ
เป็นครูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษาโดยเฉพาะเพื่อให้มีความรู้และ ทักษะเพียงพอสำหรับการสอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษา
2.2 สถาบันการฝึกหัดครูในระดับประถมศึกษาควรจัดประสบการณ์ให้นักศึกษาได้สังเกต
การสอนจากครูที่เป็นตัวแบบที่ดี ทางการสอนเพื่อให้นักศึกษาได้เห็นตัวอย่างการสอนที่ดี
เพื่อนำไปปฏิบัติในอนาคต
2.3 ควรพิจารณากำหนดมาตรการต่างๆในการที่จะทำให้มีผู้สนใจมาเรียนครูมากขึ้น
เช่นการให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการสูงขึ้น หรือจัดแนวทางการเลื่อนตำแหน่งในอาชีพครู ให้จูงใจให้มีผู้มาประกอบอาชีพครูมากขึ้น
2.4 ประเทศไทยควรคิดหาวิธีการอบรมครูประจำการที่มีประสิทธิภาพโดยใช้งบประมาณไม่มากนัก
เช่นจัดการนิเทศภายในโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพ การให้มีระบบการทำงานร่วมกันเป็นคณะของครูเพื่อจะได้มีการปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความรู้และ
ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โปรแกรมการฝึกอบรมครูประจำการที่จะจัดให้แก่ครูก็ควรจัด ให้มีการอบรมในเรื่องเนื้อหาให้มากขึ้นด้วยแทนที่จะอบรมเรื่องวิธีสอนเท่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากครูประถมส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อมในด้านเนื้อหาทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
3. ด้านกระบวนการเรียนการสอน
กระบวนการเรียนการสอนของประเทศที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์สูงจะเน้นการสอนในแนวที่ให้นักเรียนสร้างความรู้เอง
เน้นการปฏิบัติและความสอดคล้องกับชีวิตจริงของผู้เรียน ซึ่งสอดคล้องกับพระราช บัญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ.2542 แต่ก็ยังมีประเด็นต่างๆที่อาจเป็นปัญหา/อุปสรรค ในทางปฏิบัติหลายประการ
เช่น ความพร้อมและความเข้าใจของครูต่อการเรียน การสอนตามแนวใหม่
เนื้อหาในหลักสูตรอาจมีมากเกินไปสำหรับเวลาในการสอน ที่อำนวยให้ จำนวนนักเรียนในแต่ละห้องมีมากเกินไปสำหรับการทำกิจกรรมการเรียน
การสอน อุปกรณ์การสอนและสิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่พร้อม การนิเทศการสอน และการให้คำแนะนำปรึกษายังดำเนินการไม่ทั่วถึง
ฯลฯ ในการจัดกระบวนการเรียน การสอนในประเทศไทยควรเน้นการสอนให้นักเรียนปฏิบัติจริงให้มากขึ้น
มีการสอน ให้นักเรียนฝึกหัดวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้นด้วยการให้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์
จัดกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ให้แก่นักเรียน เชิญผู้ที่มีความรู้ทางคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ในชุมชนมาพบปะ
สนทนา หรือสอนนักเรียนบ้าง และควรมีปัจจัย อื่นที่ส่งเสริมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เช่นศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อ
การศึกษาให้ทั่วประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น